เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา สำนักข่าว AP ของสหรัฐฯ ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์พิเศษของโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ใกล้จะเข้าสู่ปีที่ 2 แล้ว บทสัมภาษณ์ดังกล่าวมีหลายประเด็นที่น่าสนใจ
ประเด็นหนึ่งที่ประธานาธิบดียูเครนกล่าวคือ ฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงได้พาสงครามเข้าสู่เฟสใหม่แล้วและจะส่งผลให้สงครามซับซ้อนและเป็นไปอย่างยากลำบากมากยิ่งขึ้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ผู้นำตุรกี ย้ำชัด "ไครเมีย"เป็นของยูเครน พร้อมสนับสนุนยูเครน
"ไบเดน" ยอมรับ หวั่นการเมืองกระทบความช่วยเหลือให้ยูเครน
สาเหตุที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีระบุเช่นนี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นไม่เพียงแค่เปิดโอกาสให้รัสเซียหันกลับมาใช้ยุทธศาสตร์โจมตีทางอากาศเพื่อทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของพลเรือนยูเครนเท่านั้น
แต่ขณะเดียวกันก็ยังส่งผลให้การสู้รบที่แนวรบยากลำบากขึ้นด้วยไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิเยือกแข็ง พื้นดินอ่อนนุ่มจากหิมะ ที่ทำให้การเคลื่อนที่เป็นไปได้ยากลำบากขึ้น และทุ่งหญ้าแห้งแล้งซึ่งส่งผลให้ทหารไม่มีพื้นที่พรางตัว
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ประธานาธิบดียูเครนออกมายอมรับว่าปฏิบัติการโต้กลับตลอดช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาไม่ได้นำมาซึ่งผลลัพธ์ตามที่กองทัพยูเครนคาดหวังไว้ โดยระบุว่ากองทัพยูเครนคาดหวังว่าการรุกคืบจะเป็นไปอย่างรวดเร็วกว่านี้
แต่กำลังที่จำกัดของกองทัพและอาวุธบางชนิดที่ไม่ได้รับหลังร้องขอต่อชาติพันธมิตร ทำให้ความคืบหน้าเป็นไปอย่างจำกัด
บทสัมภาษณ์ฉบับนี้ออกมาในช่วงเวลาที่ยูเครนกำลังเผชิญความยากลำบาก ขณะที่การสู้รบยังดำเนินต่อไปอย่างหนักหน่วง จำนวนกระสุนในคลังของยูเครนก็ลดลงเรื่อยๆ จนนำไปสู่ความกังวลว่ายูเครนจะมีอาวุธยุทโธปกรณ์เพียงพอเพื่อไม่ให้การต่อสู้ต้านทานกองทัพรัสเซียชะงักลงหรือไม่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพันธมิตรรายใหญ่อย่างสหรัฐฯ ยังไม่สามารถผ่านงบประมาณสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ยูเครนได้ ท่ามกลางความไม่ลงรอยกันภายในการเมืองสหรัฐฯ
ล่าสุด ทำเนียบขาวได้ออกจดหมายกดดันให้สภาคองเกรสเร่งผ่านงบประมาณสนับสนุนยูเครนแล้ว หลังจากที่มีสัญญาณว่างบประมาณสนับสนุนที่สหรัฐฯ เคยมอบให้แก่ยูเครนใกล้จะหมดลงแล้ว
เมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) ระหว่างการแถลงของทำเนียบขาว เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ได้ออกมาระบุว่า ผู้อำนวยการสำนักงานการจัดการและงบประมาณของทำเนียบขาวได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน
โดยเตือนว่างบประมาณช่วยเหลือด้านการทหารของยูเครนที่เคยผ่านการอนุมัติแล้วกำลังจะหมดลงภายในสิ้นปีนี้ และสหรัฐฯ จะไม่สามารถจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ยูเครนต่อไปได้ หากรัฐสภายังไม่รีบผ่านงบประมาณก้อนใหม่ออกมา
พร้อมระบุว่า ไม่ว่าจะสมาชิกสภาจะมาจากพรรครีพับลิกันหรือเดโมแครตก็ตาม ก็ควรโหวตผ่านงบประมาณนี้เพราะการโหวตคัดค้านงบประมาณช่วยเหลือยูเครนจะเท่ากับว่ายอมปล่อยให้ยูเครนพ่ายแพ้ในสนามรบ และปล่อยให้รัสเซียภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินได้รับชัยชนะ
การออกมากล่าวย้ำของที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากชาแลนดา ยัง ผู้อำนวยการสำนักงานการจัดการและงบประมาณของทำเนียบขาวได้ส่งจดหมายไปถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ รวมถึงยังสำเนาไปยังประธานวุฒิสภาสหรัฐฯ ด้วย
ส่วนหนึ่งของจดหมายฉบับดังกล่าวระบุว่า “งบประมาณของเราจะหมดลงแล้ว และเวลาก็ใกล้จะหมดลง”
เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านงบประมาณของทำเนียบขาวระบุรายละเอียดในจดหมายว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนตากอนได้ใช้งบประมาณไปแล้วร้อยละ 97 ของงบประมาณมูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.2 ล้านล้านบาท ที่ได้รับไปช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ส่วนงบประมาณของกระทรวงการต่างประเทศมูลค่า 4.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.6 แสนล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วยความช่วยเหลือทางการทหารและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมก็ได้หมดลงแล้ว
การส่งจดหมายจากฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ ครั้งนี้ ถือเป็นคำเตือนเพื่อเร่งให้ฝ่ายนิติบัญญัติอย่างรัฐสภาสหรัฐฯ รีบผ่านงบประมาณสนับสนุนยูเครนที่ค้างคามาเป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว ครั้งล่าสุดที่ฝ่ายทำเนียบขาวส่งคำร้องของบประมาณเพิ่มเติมไปยังสภาคองเกรสคือเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเป็นแพ็กเกจฉุกเฉินมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯเพื่อช่วยเหลือยูเครน อิสราเอล พันธมิตรในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และเพื่อยกระดับความมั่นคงชายแดนสหรัฐฯ
ในงบประมาณดังกล่าว งบประมาณช่วยเหลือยูเครนมีมูลค่าอยู่ที่ 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในจำนวนนั้น กว่าครึ่งจะเป็นงบประมาณเพื่อให้กระทรวงกลาโหมจัดซื้ออาวุธเพิ่มเติมและส่งมอบให้แก่ยูเครน
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมางบประมาณช่วยเหลือยูเครนไม่สามารถผ่านออกมาได้ เนื่องจากส.ส.รีพับลิกันบางส่วนเริ่มคัดค้านแนวทางของทำเนียบขาวในการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนยูเครน โดยเฉพาะผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญอย่างประธานสภาสหรัฐฯ ซึ่งมีอำนาจในการกำหนดทิศทางการผ่านงบประมาณความช่วยเหลือ
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำเนียบขาวออกจดหมายเตือนเพื่อกดดันให้สภาคองเกรสรีบดำเนินการผ่านงบประมาณก้อนใหม่ ก่อนที่งบสนับสนุนที่เหลืออยู่จะหมดลง
ทั้งนี้ หลังจากที่ผู้อำนวยการสำนักงานการจัดการและงบประมาณของทำเนียบขาวเผยแพร่จดหมายคำเตือนเร่งผ่านงบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาทวิตข้อความตอบกลับโดยระบุว่า รัฐบาลไบเดนยังไม่สามารถชี้แจงข้อกังวลเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ต่อยูเครนให้กระจ่างได้ ขณะเดียวกันเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ฝ่ายพรรครีพับลิกันก็ได้ยื่นคำขาดว่าจะพิจารณาผ่านร่างงบประมาณช่วยเหลือเพิ่มเติมให้แก่ยูเครน ก็ต่อเมื่อฝ่ายเดโมแครตยอมพิจารณาเปลี่ยนนโยบายความมั่นคงชายแดนให้เข้มข้นขึ้นแนบไปในร่างเดียวกัน
ส่วนสาเหตุที่มีจดหมายออกมาเมื่อวาน เนื่องจากในวันพุธที่จะถึงนี้วุฒิสภาของสหรัฐฯ ซึ่งเสียงส่วนมากเป็นของพรรคเดโมแครต จะพิจารณาเตรียมลงคะแนนผ่านงบประมาณช่วยเหลือเพิ่มเติมมูลค่า 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่ยูเครน
ล่าสุด สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ ได้เชิญให้ประธานาธิบดีเซเลนสกีปราศรัยต่อวุฒิสภาผ่านวิดีโอคอลวันนี้ เพื่อให้สมาชิกวุฒิสภาได้รับฟังจากผู้นำยูเครนโดยตรงว่า ยูเครนกำลังเผชิญกับอะไรอยู่บ้างและมีอะไรเป็นเดิมพัน
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาทำเนียบขาวแสดงความมั่นใจอย่างต่อเนื่องว่าท้ายที่สุดแล้ว สภาคองเกรสจะสามารถผ่านงบประมาณช่วยเหลือเพิ่มเติมให้แก่ยูเครนออกมาได้ ตามที่แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศนาโตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าหากสภาคองเกรสไม่สามารถอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือยูเครนได้ จะยังสามารถผ่านร่างความช่วยเหลืออีกฉบับภายในปีนี้ได้หรือไม่
ล่าสุด ประธานาธิบดียูเครนได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อสหรัฐฯ ว่า สงครามได้เข้าสู่เฟสใหม่แล้วหลังฤดูหนาวเริ่มต้นขึ้นพร้อมยอมรับว่าปฏิบัติการโต้กลับตลอดช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาไม่ได้นำมาสู่ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังไว้
ขณะที่หลายฝ่ายกังวลว่ายูเครนจะได้รับการสนับสนุนจากชาติพันธมิตรอย่างเพียงพอหรือไม่ รัสเซียก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำสงครามรุกรานยูเครนต่อไปล่าสุดมีรายงานว่ารัสเซียโจมตียูเครนที่แคว้นเคอร์ซอน จนมีพลเรือนเสียชีวิต 2 ราย
วันนี้ช่วงเช้าตามเวลาท้องถิ่น หัวหน้าสำนักประธานาธิบดียูเครนออกมาระบุว่า รัสเซียได้โจมตีแคว้นเคอร์ซอนทางภาคใต้ของยูเครนหลายระลอก การโจมตีระลอกหนึ่งส่งผลให้พลเรือนชายวัย 48 ปี และพลเรือนหญิงที่ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้ เสียชีวิตลง
ด้านโรมัน มรอชโก ผู้ว่าการแคว้นเคอร์ซอนระบุว่า การยิงโจมตีอีกระลอกส่งผลให้แพทย์ 2 คน ซึ่งขณะนั้นอยู่ในพื้นที่สถานพยาบาลได้รับบาดเจ็บจากการโจมตี
ทั้งนี้ เคอร์ซอนมักตกเป็นเป้าการโจมตีของรัสเซียมาโดยตลอด หลังกองทัพรัสเซียล่าถอยลงไปทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำดนีโปร จากการเปิดปฏิบัติการโต้กลับของยูเครนเมื่อปีที่แล้ว