นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด(ไทย) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 66 คาดจะขยายตัว 3.3% ปรับลดลงจากคาดเดิม 4.2% จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และคาดในปี 67 จะขยายตัว 4.2% โดยนักลงทุนต่างชาติยังติดตามดูนโยบายของรัฐบาลใหม่ที่เพิ่งเริ่มจัดตั้งอย่างเป็นทางการ เช่น เงินดิจิทัล 10,000 บาท และงบประมาณปี 67 ยังเชื่อรักษาวินัยการเงินการคลัง เพราะในอีก 4-5 ปีข้างหน้ามีแนวโน้มที่จะลดการขาดดุลงบประมาณ สอดรับเศรษฐกิจเติบโตในปี 67 มีรายได้เพิ่มขึ้น จะช่วยให้การใช้จ่ายสมดุล และติดตามนโยบายต่างๆว่ามีทิศทางอย่างไรคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ทั้งนี้ในไตรมาส 4 การท่องเที่ยวชัดเจนมากขึ้น เช่นเดียวกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การแจกเงินดิจิทัลที่จะออกมาในปี 67 แต่ในปีนี้เริ่มมีความมั่นใจในการกระตุ้นการใช้จ่ายแล้ว ซึ่งต้องดูว่าเงินเฟ้อจะเร่งขึ้นหรือไม่ ถ้าเงินเฟ้อเร่งตัวมาก จะทำให้การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)อาจขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในเดือนพ.ย.นี้ ไปสู่ระดับ 2.5% แต่คาดว่ากนง.ในการประชุมวันที่ 27 ก.ย.นี้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.25% แบบเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 เพื่อรอดูทิศทางและความชัดเจน ส่วนเงินเฟ้อในปีนี้ 1.4% และในปี 67 อยู่ที่ 2.1%
สำหรับการท่องเที่ยวไทยดีขึ้น จาก 8 เดือนแรกมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 18 ล้านคน เฉลี่ย 2.2 ล้านคนต่อเดือน ถ้าหากปลายปีจะได้เดือนละ 2.7-2.8 ล้านคนขึ้นไป หรืออาจ 3 ล้านคน ถ้าเป็นอย่างที่คาดทั้งปีจะมีไม่ต่ำกว่า 28 ล้านคน ซึ่งเป็นไปได้ค่อนข้างมาก ซึ่งยังทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอยู่ที่ 34 บาทต่อดอลลาร์ได้ จากปัจจุบันเงินบาทอ่อนค่าสุดในภูมิภาคอยู่ที่ 35.70 บาทต่อดอลลาร์คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
“เศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ในช่วงเศรษฐกิจขยายตัว แม้ว่าที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ แต่ตอนนี้ได้รัฐบาลใหม่แล้ว คาดว่าการบริโภคภายในประเทศจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตามมาด้วยการฟื้นตัวนภาคการท่องเที่ยวที่เร่งตัวขึ้น และติดตามงบปี 67 รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้จะมีทิศทางอย่างไร จะยังคงเป็นสิ่งที่ต้องมีการติดตามดู”